(นำเสนออย่างทรงพลังและหวังผล)

ผู้ฟังมีเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจมากมายและเวลาของเขาก็มีคุณค่าทุกวินาที  แต่บางครั้งกลับต้องเสียเวลาไปกับการรับฟังการนำเสนอที่เข้าใจยาก ไม่ตรงประเด็น ไม่ตอบโจทย์ วกวนเยิ่นเย้อจับต้นชนปลายไม่ถูก และไม่ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญเพียงพอต่อการตัดสินใจ หรือจะให้ทำอะไรต่อ

เบื้องหลังความสำเร็จของงานมักขึ้นอยู่กับคุณภาพของนำเสนอ  ผู้ที่นำเสนอได้โดนใจ คือผู้ที่สามารถเรียบเรียงข้อมูลให้เข้าใจได้ง่าย เข้าไปอยู่ในใจของผู้ฟังและคาดเดาได้ว่าเขาอยากจะได้อะไร ฟังแล้วมีประโยชน์อะไรกับเขาสามารถโน้มน้าวใจให้ผู้ฟังคล้อยตาม เสนอแนะทางเลือกที่สำคัญต่อการตัดสินใจ และสรุปการนำเสนอได้อย่างกระชับและตรงประเด็น ภายใต้เงื่อนเวลาอันทรงคุณค่า

จะเป็นอย่างไรหากผู้นำเสนอ

• นำเสนอแต่ในมุมมองของตัวเอง พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูด แต่ไม่เคยคิดว่าคนฟังอยากจะฟังอะไร ฟังแล้วจะได้อะไร จะให้ทำอะไรต่อ
• พูดไม่รู้เรื่อง เข้าใจยากด้วยการลำดับเรื่องราวที่ไม่ปะติดปะต่อ และการใช้ศัพท์เทคนิคที่ไม่ได้คำนึงว่าผู้ฟังจะเข้าใจหรือไม่
• ลงรายละเอียดมากเกินไปแต่ไม่สามารถสรุปประเด็นให้เห็นภาพใหญ่ที่สำคัญต่อการตัดสินใจ
• ไม่สามารถโน้มน้าวใจผู้ฟังให้คล้อยตามที่เราต้องการ
• ขาดความมั่นใจในการนำเสนอ ประหม่าตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ลืมทุกอย่างที่ได้เตรียมมาอย่างดี
• อัดข้อมูลลงมาใน Presentation Slide มากมายเกินความจำเป็น แทนที่จะสนับสนุนให้การนำเสนอนั้นเข้าใจง่ายกลับกลายเป็นการสร้างความสับสนให้กับผู้ฟัง
• อยู่กับตัวเองแต่ไม่ได้อยู่กับผู้ฟัง  ไม่เคยสังเกตปฏิกิริยาของผู้ฟังว่าขณะนั้นรู้สึกอย่างไร สนใจหรือไม่ เข้าใจหรือเปล่า เขาอยากจะถามอะไร
• ขาดบุคลิกภาพแห่งความน่าเชื่อถือ น้ำเสียงราบเรียบไร้ความชัดเจนฉะฉานไม่มีจังหวะจะโคน

การเสริมสร้างความมั่นใจในการนำเสนอ

• Growth Mindset กับความสร้างความมั่นใจ
• กระบวนการสู่การลอกคราบ (Transformation)
• การตั้งความตั้งใจเพื่อความมุ่งมั่นในการพัฒนา (Intention Setting)
• ร่างกายกับจิตใจคือเรื่องเดียวกัน

สิ่งที่ควรทราบก่อนการออกแบบ

• 3 ทวีปของโลกการนำเสนอ Data Design Delivery
• หลักการ “ยิ่งน้อยยิ่งได้มาก” (Less is More)
• การวิเคราะห์ผู้ฟังเพื่อออกแบบการนำเสนอจากมุมมองของเขา (What’s in it for me)
• การตั้งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอเพื่อความชัดเจน
• ความกลมกลืนของ บทนำ เนื้อหา บทสรุป

บทนำที่ชวนติดตาม (Interesting Introduction)

• การปูพื้นเพื่อความเข้าใจเบื้องต้น
• เครื่องมือ Pain and Pleasure เพื่อการดึงดูดความสนใจ
• แก่นสาระสำคัญที่ต้องการจะสื่อถึงผู้ฟัง

เนื้อหาที่โน้มน้าวใจ (Persuasive Content)

• โครงสร้างกับการเรียบเรียงและลำดับเนื้อหา
• เครื่องมือในการโน้มน้าวใจให้ผู้ฟังคล้อยตาม
• การเล่าเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจสู่การตัดสินใจ
• การยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจและเห็นภาพ
• การนำเสนอข้อมูลสถิติในรูปแบบของกราฟ

บทสรุปที่ทรงพลัง (Powerful Conclusion)

• การสรุปประเด็นสำคัญทั้งหมดที่ได้นำเสนอมา
• การกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ (Call to Action)
• เทคนิคในการสรุปให้ประทับใจ

 การถ่ายทอดที่ดึงดูด (Attractive Delivery)

• บุคลิกภาพที่ดีและน่าเชื่อถือของผู้นำเสนอ
• การเคลื่อนไหวร่างกาย การใช้มือ การสบตา ของมืออาชีพ
• การใช้ระดับเสียงและน้ำเสียง เสริมด้วยความชัดเจนฉะฉาน มีจังหวะจะโคน
• เทคนิคในการพูดให้เข้าใจและจดจำสิ่งที่นำเสนอได้ด้วยเทคนิค 4T
• การสร้างบรรยากาศและความมีส่วนร่วมในการนำเสนอ
• เทคนิคในการตอบคำถามที่ตรงประเด็นและคลายข้อสงสัยของผู้ฟัง

การออกแบบและจัดทำสื่อ (Presentation Slide Design)

• วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ Presentation Slide
• ความผิดพลาดในการทำ Presentation Slide
• กฎพื้นฐานในของการออกแบบและจัดทำ Presentation Slide
• Presentation Slide ที่สอดคล้องการการพูดของผู้นำเสนอ
• เทคนิคและเครื่องมือต่างๆ ในการจัดทำสไลด์ให้น่าสนใจและเข้าใจง่าย

 การฝึกปฏิบัติและการประเมินผล (Skill Practice and Feedback)

• การฝึกปฏิบัติการนำเสนอโดยใช้เทคนิคและเครื่องมือต่างๆ
• การประเมินผลตนเองในการนำเสนอ
• การให้ Feedback จากมุมมองของผู้ฟัง
• Action Plan เพื่อต่อยอดสู่การนำเสนอในชีวิตจริง

หลักสูตรนี้จะทำให้ผู้เข้าอบรมสามารถ

• วิเคราะห์ผู้ฟังและสามารถนำเสนอในมุมมองของผู้ฟังว่าผู้ฟังอยากจะฟังอะไร
• มีเป้าหมายในการนำเสนอที่ชัดเจน และสำเร็จลงด้วยผลลัพธ์ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
• กลั่นกรองและเรียบเรียงข้อมูล จัดโครงสร้างและลำดับการนำเสนอให้ได้ข้อสรุปที่สำคัญต่อการตัดสินใจ
• โน้มน้าวให้ผู้ฟังคล้อยตามและเปลี่ยนความคิดหรือพฤติกรรมอย่างที่เราต้องการ
• นำเสนอเข้าใจง่าย ชวนติดตาม ลำดับการนำเสนอได้ดี กระชับและตรงประเด็นภายในเวลาที่กำหนด
• ครองเวที มีบุคลิกภาพและใช้น้ำเสียงด้วยความมั่นใจน่าเชื่อถือ
• ออกแบบและจัดทำ Slide Presentation ได้ทันสมัย สอดคล้องและสนับสนุนการนำเสนอได้เป็นอย่างดี

หลักการและรูปแบบของการฝึกอบรม

การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ที่ผู้เรียนเห็นความสำคัญของสิ่งที่ได้เรียนรู้และสามารถนำไปใช้ได้จริง จะต้องเกิดจากความสมดุลระหว่าง ทักษะ (Skillset) และ ทัศนคติ (Mindset)  ซึ่งหลักสูตรนี้ได้ถูกออกแบบมาให้มีความกลมกลืนของสองปัจจัยดังกล่าวโดย

• ใช้เทคนิคในการจำลองสถานการณ์การนำเสนอจริงเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้รูปแบบการนำเสนอและเทคนิคต่าง ๆ อันหลากหลาย  และซึมซับบรรยากาศในการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพได้ด้วยตัวเอง
• เรียนรู้ผ่านรูปแบบวิธีการสอนที่หลากหลายผ่านกิจกรรม เกม VDO และWorkshop ที่ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้
• เรียนรู้ผ่านกระบวนการในการสร้างอารมณ์และความรู้สึกร่วมเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
• บรรยากาศการเรียนรู้เป็นแบบสนุกสนานและเป็นกันเอง ชวนติดตาม ไม่น่าเบื่อ